วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

สถานที่ท่องเที่ยว








 
     เชียงราย นับเป็นจังหวัดที่อยู่เหนือสุดของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน แถมยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้บนดอยสูงที่สลับซับซ้อน เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำและน้ำตกอันงดงามหลายแห่ง รวมถึงมีประชากรหลายเชื้อชาติ ทั้งชาวไทยพื้นราบ ชาวไทยภูเขา และชาวจีนฮ่อ ที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่บนดอยสูง ซึ่งแต่ละชนชาติจะมีประเพณี วัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่มีเอกลักษณ์ เป็นเสน่ห์อีกอย่างที่ทำให้เชียงรายได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ จึงไม่ต้องแปลกใจเลยหากเชียงรายจะเป็นจังหวัดอันดับต้น ๆ ที่นักเดินทางมักคิดถึงเป็นที่แรก ๆ

1.วนอุทยานภูชี้ฟ้า






  วนอุทยานภูชี้ฟ้า เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นสุดฮอตของจังหวัดเชียงราย อยู่ห่างจากดอยผาตั้ง 25 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นยอดเขาที่แหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า อยู่สูงจากระดับทะเลประมาณ 1,628 เมตร โดยมีหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว บนยอดภูชี้ฟ้าเป็นทุ่งหญ้ากว้าง ในฤดูหนาวจะมีทิวทัศน์สวยงามเป็นพิเศษ นักท่องเที่ยวส่วนมากจะมาค้างแรมบริเวณบ้านร่มฟ้าทองทาง ซึ่งห่างจากจุดชมวิวประมาณ 1.5 กิโลเมตร แล้วจะเดินขึ้นภูชี้ฟ้าเพื่อไปชมวิวตอนเช้ามืด ระหว่างทางจะพบแปลงปลูกป่านางพญาเสือออกดอกบานสะพรั่งสวยงาม (เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์) และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ต้นเสี้ยวดอกขาวรอบภูชี้ฟ้าจะออกดอกบานเต็มเชิงเขา

           การเดินทางใช้เส้นทางเชียงราย-เทิง ระยะทาง 64 กิโลเมตร และจากเทิง-บ้านปี้ ระยะทาง 6 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1155 ผ่านบ้านปางค่า บ้านเชงเม้ง เป็นทางลาดยาง ถึงภูชี้ฟ้าระยะทาง 42 กิโลเมตร หรือใช้ทางหลวงหมายเลข 1021 สายเทิง-เชียงคำ-บ้านฮวก ก่อนถึงเชียงคำ 6 กิโลเมตร มีทางแยกไปอุทยานแห่งชาติน้ำตกภูซาง อีก 19 กิโลเมตร แล้วเดินทางต่อไปยังภูชี้ฟ้าอีก 30 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถนำรถไปจอดไว้ที่ลานจอดรถวนอุทยานภูชี้ฟ้าแล้วเดินเท้าไปจุดชมวิวประมาณ 700 เมตร สอบถามรายละเอียดติดต่อได้ที่ สถานีขนส่งเชียงราย โทรศัพท์ 0 5371 1224 อบต.ตับเต่า โทรศัพท์ 0 5318 9111 และศูนย์บริการนักท่องเที่ยว โทรศัพท์ 0 5371 0195-6

2.ดอยผาหมน





เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรอีกแห่งหนึ่งของ จ . เชียงราย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากภูชี้ฟ้ามากนัก นักท่องเที่ยว ที่มาเที่ยวภูชี้ฟ้า ไม่ควรพลาดที่จะแวะมาเยี่ยมชมความสวยงามของดอกไม้เมืองหนาวของที่นี่ โดยเฉพาะดอกทิวลิป และดอกลิลลี่  ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรดอยผาหม่นซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2535 มุ่งเน้นให้เป็นศูนย์ฝึกอบรม และส่งเสริมด้านการเกษตร บนพื้นที่ 113 ไร่ บนความสูงกว่า 1,000 เมตร อากาศเย็นสบายตลอดปี   ที่นี่ เป็นสถานที่ เพาะปลูกไม้เมืองหนาวหลายชนิด เช่น ดอกทิวลิป ลิลลี่ ดอกชัลเวียสีแดง ต้นคริสต์มาตย์สีแดง หลากสีหลายพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีทัศนียภาพที่สวยงามเห็นภูเขาน้อยใหญ่เรียงสลับกันอย่างสวยงาม สีเขียวขจีของต้นไม้ แสดงให้เห็น ถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้โดยรอบ ไฮไลต์ที่สำคัญของที่นี่ ก็คงเป็นการเปิดให้เข้าชมแปลงดอกทิวลิปหลากสี ดอกลิลลี่ และยังมีดอกไม้เมืองหนาวอีกมากมาย บนเนื้อที่กว่า 5 ไร่ โดยจะมี จัดเทศกาล ดอยทิวลิปบาน ที่ ดอยผาหม่น ในช่วงหน้าหนาวของทุกปี  ดอกทิวลิปบานแล้วจะอยู่ได้ราว 1 สัปดาห์เท่านั้น และเป็นดอกไม้ที่ชอบ อากาศหนาวจะอยู่ในอณุหภูมิที่ 10-15 องศาเซียลเซียส ศูนย์ส่งเสริมการเพาะปลูกไม้เมืองหนาว จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ ไปศึกษาอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อศึกษาและทดสอบในการนำทิวลิปเข้ามาปลูกในเมืองไทย ทิวลิปของที่ดอย ผาหม่นมีสายพันธุ์เป็นร้อยสายพันธุ์แต่ที่ทดสอบแล้วปลูกได้ในเมืองไทยมีอยู่ 30 สายพันธุ์ ส่วนที่นำมาทดลองปลูกม ี 11 สายพันธุ์ที่ทนทานรับกับสภาพอากาศบนดอยได้ การปลูกต้องใช้หน่อที่นำเข้าจาก เนเธอร์แลนด์ และใช้ครั้งเดียว ซึ่งอุณหภูมิจะเป็นตัวกำหนดการออกดอก

3.พระธาตุจอมจ้อ




พระธาตุจอมจ้อ ที่ตั้ง วัดพระธาตุจอมจ้อ ตำบลเวียง อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย โทร. 053-795-063 - 081-252-7798 มีพระนิพนธ์ โกวิโท เป็นเจ้าอาวาส ประวัติพระธาตุ พระธาตุจอมจ้อเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิที่อยู่คู่เมืองเทิงมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล ประวัติพระธาตุจอมจ้อจากคัมภีร์เก่าแก่ที่ตั้งโดยนักปราชญ์ผู้ชำนาญในด้านภาษาบาลีของอำเภอเมืองเทิง (เมืองเถิง) ในสมัยนั้นได้กล่าวว่า ในกาลสมัยเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาสุวรรณภูมิ พระองค์ได้พักอยู่ใต้ต้นอโศกบนดอยใกล้แม่น้ำอิง

 มีพญานาคตนหนึ่ง รู้ว่าพระพุทธองค์เสด็จมาจึงเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ทูลถามความต่างๆแล้วจึงนำจ้อคำ ๓ ผืนแล้วจ้อแก้วอีก ๓ ผืน มาถวายพระพุทธองค์ พระอานนท์จึงขอทูลพระธาตุให้พระยานาคตนนั้น พระพุทธองค์จึงนำพระหัตถ์ลูบพระเศียรได้พระเกศาธาตุเส้นหนึ่ง จึงโปรดให้พญานาคไว้พญานาคจึงนำความแจ้งให้เจ้าเมืองสร้างพระธาตุไว้ที่กลางดอยเพื่อบรรจุพระเกศาธาตุ ต่อมาจึงมีการขนานนามพระธาตุนั้นว่า พระธาตุจอมจ้อ ทุกปีจะมีพิธีสรงน้ำพระธาตุจอมจ้อ ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ เหนือ

ความเชื่อ ในการไหว้ พระธาตุดอยจอมจ้อ คำว่า "จ้อ" เป็นคำล้านนา หมายความเทียบได้กับ "ช่อ" ในภาษาไทยกลาง
"จอมจ้อ" จึงควรหมายความถึง ชูขึ้น หรือสูงเด่น เป็นสง่า สูงส่ง ถ้าได้กราบไหว้ก็จะประสบความสำเร็จทุกสิ่งเหมือนกับการเริ่มเจรจาก็นำมาซึ่งความสำเร็จและสมประสงค์ทุกประการ

การเดินทาง : ออกจากอำเภอพานใช้ทางหลวงหมายเลข ๑ ไปทางใต้แยกพาน – ป่าแดด เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข ๑๑๘๑ ผ่านสันมะเค็ด ป่าแงะ ถ้าผาจรุย จนถึงสามแยกเชียงเคี่ยน เลี้ยวขวาเข้าถนนศรีเชียงราย – เทิง ผ่านยศรีดอนชัย ปล้อง เข้าสู่อำเภอเมืองผ่านสถานีตำรวจภูธรอำเภอเทิง โรงพยาบาลเทิง และวัดพระศรีมหาโพธิ์ ข้ามสะพานแม่น้ำอิงอีก ๒๕o เมตร จะถึงปากทางเข้าพระธาตุจอมจ้อ ต้องขับรถขึ้นดอยอีกประมาณ ๑,๕oo เมตร รวมการเดินทางทั้งสิ้น ๖๕ กิโลเมตร

4.น้ำตกตาดบอน

          ตั้งอยู่ที่บริเวณป่าต้นน้ำห้วยขุนปล้อง  ไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำขุนปล้องอยู่ในเขตป่าอนุรักษ์  ของบ้านสันป่าสัก  หมู่ที่ 10  ตำบลปล้อง  อำเภอเทิง  จังหวัดเชียงราย  ซึ่งเป็นน้ำตกขนาดเล็กที่ชาวบ้านได้ค้นพบมานานมากแล้ว  ซึ่งมีความสวยงามมาก  ทางเข้าน้ำตกผ่านบ้านหมู่ที่  10 เลียบบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยขุนปล้องไปตามไหล่เขาผ่านค่ายลูกเสือประจำตำบล  จนถึงน้ำตกประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลา 30 นาทีโดยประมาณ  สภาพแวดล้อมโดยรวมยังคงสภาพเป็นป่าเบญจพรรณ  มีพันธุ์ไม้นานาพันธุ์  แมลงนานาชนิด  โดยการอนุรักษ์ของชาวบ้านหมู่ที่  4 และหมู่ที่ 10
            การเดินทางเข้าไปน้ำตกตาดบอนเดินทางได้โดยรถยนต์ประมาณ 3  กิโลเมตร จากทางแยกถึงจุดจอดรถแล้วเดินเท้าต่อ  ซึ่งจะต้องเดินทางประมาณ 1 กิโลเมตร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น